การบริหารวงจรรายได้

การบริหารวงจรค่าใช้จ่าย (Purchase to Pay)
   - การบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนผู้ค้า (Supplier Master)
   - การจัดการข้อมูลหลักทะเบียนสินค้า (Material Master)
   - การบริหารการจัดซื้อ (Purchase Management)

การบริหารวงจรค่าใช้จ่าย

การบริหารวงจรค่าใช้จ่าย (Purchase to Pay)
   - การบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนผู้ค้า (Supplier Master)
   - การจัดการข้อมูลหลักทะเบียนสินค้า (Material Master)
   - การบริหารการจัดซื้อ (Purchase Management)

การบริหารการผลิต

การบริหารวงจรค่าใช้จ่าย (Purchase to Pay)
   - การบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนผู้ค้า (Supplier Master)
   - การจัดการข้อมูลหลักทะเบียนสินค้า (Material Master)
   - การบริหารการจัดซื้อ (Purchase Management)

การบริหารสินค้าคงคลัง

การบริหารวงจรค่าใช้จ่าย (Purchase to Pay)
   - การบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนผู้ค้า (Supplier Master)
   - การจัดการข้อมูลหลักทะเบียนสินค้า (Material Master)
   - การบริหารการจัดซื้อ (Purchase Management)

กระบวนการทางบัญชีและการจัดการข้อมูลเพื่อการทำงบการเงิน

การบริหารวงจรค่าใช้จ่าย (Purchase to Pay)
   - การบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนผู้ค้า (Supplier Master)
   - การจัดการข้อมูลหลักทะเบียนสินค้า (Material Master)
   - การบริหารการจัดซื้อ (Purchase Management)

การบัญชีบริหาร

การบริหารวงจรค่าใช้จ่าย (Purchase to Pay)
   - การบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนผู้ค้า (Supplier Master)
   - การจัดการข้อมูลหลักทะเบียนสินค้า (Material Master)
   - การบริหารการจัดซื้อ (Purchase Management)

     การพัฒนาระบบงาน ERP ให้ประสบความสำเร็จและธุรกิจสามารถใช้ระบบงานให้ยั่งยืนได้ด้วยตนเองได้นั้น เรามีแนวคิดการให้บริการพัฒนาระบบงานแบบ Partner Ship ที่จะต้องให้บริการพร้อมทั้งถ่ายถอดวิธีการให้ผู้ประกอบการดูแลตนเองต่อได้ด้วย มิใช่เป็นแต่เพียงการขาย software license ดังเช่นวิธีการเดิมที่เคยทำมา

     แนวคิดการให้บริการระบบงานแบบใหม่นี้เราจะให้บริการพัฒนาระบุบงานพร้อมทั้งให้วิธีการKnow How Sharing การช่วยวิเคราะห์ปัญหาและวิธีการแก้ไขแบบมีบูรณาการข้อมูล สร้างทักษะให้กับบุคคลากรของผู้ประกอบการให้เข้าใจระบบ และจัดบริหารองค์ความรู้และส่งต่อให้ผู้ประกอบการเพื่อให้เขาดูแลใช้งานระบบได้ด้วยตนเอง เรามองหากลุ่มคนที่มีแนวคิดด้วยกันนี้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนเพื่อช่วยขยายการวางระบบงานให้กับผู้ประกอบการไทย

     ปัจจุบันเรามีหุ้นส่วนที่สามารถพัฒนาระบบงาน (Implement partner) ERP ซึ่งมีประสบการณ์และความสามารถให้การวิเคราะห์ปัญหาให้คำปรึกษาและพัฒนาระบบงาน ERP ให้ได้ดังนี้

A-Gape Consulting (Thailand) Company Limited

     เป็นบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาซอฟท์แวร์ ERP มีทีมงานที่มีประสบการณ์และความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านระบบ EPR โดยเฉพาะ บริษัทก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.249 โดยทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ และมีบุคคลากรผู้มีประสบการณ์ ด้านการพัฒนาระบบสารสนเทศที่แข็งแกร่งและการเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบระบบงานในการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาตามเทคโนโลยียุคปัจจุบัน เพื่อความสำเร็จของธุรกิจลูกค้าเป็นสำคัญ

บริษัท อากาเป้ มีความชำนาญการพิเศษในการนำระบบ ERP มาปรับใช้กับธุรกิจของลูกค้าในธุรกิจทุกรูปแบบ ได้แก่ ระบบ SAP R/3, SAP All-in-One, และระบบโฟกัสวัน บริษัทมีประสบการณ์ในการวางระบบธุรกิจในหลากหลายประเภทธุรกิจ เช่น ธุรกิจพลังงานเคมิคอล การเงิน อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมโอโตโมทีฟ เป็นต้น และบริษัทฯ มีบุคคลากรมารองรับการวางระบบทางธุรกิจได้ครบวงจร คือ ตั้งแต่การติดตั้งระบบ ให้คำปรึกษา ออกแบบ พัฒนาและดูแลระบบ รวมถึงการนำเสนอและแนะนำแนวทางที่เหมาะสมกับแต่ละองค์กร บริษัทฯ ดำเนินงานธุรกิจ โดยเน้นรูปแบบที่เอื้ออำนวยเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าโดยมีการขึ้นระบบให้ลูกค้าเป็นแบบเสร็จสมบูรณ์ (Turnkey system)

ดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริษัท อากาเป้ คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้ที่ www.a-gape.com

บริษัท สหเทพและนางฟ้า จำกัด

     กลุ่มนักพัฒนา DNA คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถทาด้านการ Implement ระบบงาน ERP ในหน่วยงานธุรกิจขนาดใหญ่ หรือ ระดับ Enterprise ที่มีความซับซ้อนในรายการธุรกิจ โดยมีประสบการณ์ในการ Implement ระบบ ERP ให้กับกลุ่มธุรกิจอังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการผลิต ธุรกิจการเงินการธนาคาร กลุ่มคนรุ่นใหม่นี้ได้สร้างการ Disruption ของ Software ERP จากต่างประเทศมาแล้วในหลายที่

I Able Business Advisory Co., Ltd.

     หัวใจในการให้บริหารงานและเป็นกลยุทธิ์ที่สำคัญของบริษัทฯ คือการใช้ประสบการณ์เชิงธุรกิจที่เชี่ยวชาญยาวนานมากกว่า 20 ปี เป็นที่ปรึกษาแก่ลูกค้า และความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและเอาท์ซอร์สเพื่อช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้นเพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสีย เน้นการให้คำแนะนำที่เป็นจริงตามสถานการณ์จริงของลูกค้า

All About Account Co., Ltd.

     ผู้ให้บริการ Platform การให้บริการแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจ SME ที่มีความต้องการทำ Digital Transformation ที่เน้นในเรื่องของกระบวนการเชื่อมโยงทางข้อมูลแบบครบวงจร ตั้งแต่ ซื้อ ขาย คลัง บัญชีและการเงิน ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการ Platform ของระบบงานที่ใช้เวลาในการ Implement แบบระยะสั้น สามารถมีระบบพร้อมใช้งานได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

Service One Solution Co., Ltd.

     ผู้ให้บริการระบบบริหารงานไอทีเซอร์วิส บริหารจัดการการรับแจ้งปัญหาที่มาจากช่องทางต่าง ๆ ในรูปแบบบริการ Ticket Number

วงจรบริหารการขาย เริ่มตั้งแต่การเสนอขายสินค้า จนไปถึงแจ้งหนี้และวางบิลเก็บเงิน

         “Focus One ERP มีระบบงานขายที่สามารถสะท้อนโครงสร้างราคา ได้ในแต่ละ Item สินค้า เพื่อให้สามารถรับรู้ผลกระทบทางด้านกำไร ที่ทำให้ผู้บริหารสามารถ สามารถมีข้อมูลในการวิเคราะห์เชิงลึก” ระบบการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เริ่มตั้งแต่การเสนอขายสินค้า จนไปถึงการแจ้งหนี้และวางบิลเก็บเงิน ตั้งแต่ระบบการบริหารการขาย (Sale Management), ระบบวิเคราะห์ยอดขาย (Sale Analysis) รวมไปจนถึง โซลูชั่นในการบริหารงานขายที่มีความหลากหลายอาทิเช่น

1. ขายส่ง (Whole Sales Management)

2. ขายปลีก (Retails Sales Management)

3. ฝากขาย (Consignment Sales Management)

4. การขายในประเทศ และการขายส่งออก (Domestic / Export Sales) รับจ้างผลิต (Make to Order)

6. ขายแบบเป็นตัวแทน (Drop Shipment Sales)

7. E-Commerce Sales

รูปแบบการขายแต่ละประเภท มีการบริหารจัดการกลยุทธ์ทางการขายที่ต่างกัน ทั้งในเชิงโครงสร้างข้อมูลและกระบวนการทำงาน ระบบงานขายของ Focus One ถูกออกแบบเพื่ออตอบโจทย์ Solution ที่หลากหลาย เพื่ออกระบวนการบริหารจัดการและควบคุม ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า โปรแกรมงานขายทั่วไป

สิ่งสำคัญของระบบงานขายคือระบบงานต้องสามารถวางโครงสร้างของการจัดการราคา ที่สอดคล้องกับค่าใช้ จ่ายการดำเนินการ รวมไปจนถึงวิธีการรับรู้ต้นทุนการผลิต เพื่อให้ การตลาดสามารถทราบข้อมูลโครงสร้างของราคาที่ควรจะทำ และเห็นโอกาสของการทำกำไร ไม่ใช่การเพิ่มยอดขายแต่เพียงอย่างเดียว สามารถสะท้อนผลกระทบทางด้านกำไรให้ กับผู้บริหารได้ รับทราบ และสามารถสร้าง Pricing Infrastructure ในการบริหารจัดการได้

ระบบการบริหารการขาย (Sales Management)

ระบบการบริหารการขาย จะเริ่มตั้งแต่การจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้า (Customer Master Database) การป้อนข้อมูลการสั่งซื้อ (Sales Order Data Entry) และการเก็บเกี่ยวข้อมูลทีเกี่ยวข้องกับสถานภาพของใบสังซื้อนัน ๆ เพื่อการตรวจสอบ โดยรวมถึงการป้อนใบสังซื้อ การติตตามการสังซื้อ รายงานสถานภาพใบสังซื้อ ราคา ใบกำกับสินค้า ข้อมูลพื้นฐานเพื่อนำไปใช้ในการสืบค้น รายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า การเสนอราคา การลดราคา การออกใบกำกับสินค้ า (Invoicing) รวมถึงการบริการสอบถามข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต

ระบบการวิเคราะห์ ยอดขาย (Sales Analysis)

ระบบการวิเคราะห์ยอดขาย (Sales Analysis) จะทำการรวบรวมข้อมูลของการขายผลิตภัณฑ์ จากใบกำกับสินค้าทุก ๆ ฉบับ โดยจะทำการจัดข้อมูลในหลายรูปแบบ มิติ และมุมมอง เช่น ยอดขายในปีนี้ถึงปัจจุบัน (Year-to-Date Sales) ยอดผลกำไร (Margin) ยอดต้นทุนขาย (Sales Cost) โดยสามารถเรียกดูข้อมูลเป็นรายเดือน รายปี หรือช่วงใด ๆ ตามต้องการ และยังสามารถวิเคราะห์ยอดขายตามลูกค้า (By Customer) ตามผู้ขาย (Salesperson) ตามภูมิศาสตร์ (Geography) จังหวัด ประเทศ ทวีป ยอดขายตามผลิตภัณฑ์ (By Product Type and Product Group) รวมทังการจัดอันดับ (Ranking) ต่าง ๆ

ราคาและส่วนลดของผลิตภัณฑ์ (Pricing and Discounting)

การกำหนดราคาและส่วนลดและส่วนลดของผลิตภัณฑ์ (Pricing and Discounting) จะเริ่มตั้งแต่การประมวลผลใบสั่งซื้อของลูกค้า และเก็บสถานภาพเพื่อรายงานการย้อนตรวจสอบ การกำหนดราคาในแต่ละใบสั่งขาย จนกระทั่งถึงใบกำกับสินค้า (Invoicing) โดยรวมถึงการเสนอราคา (Quote Processing) และการลดราคา (Rebate) ในแต่ละสินค้าของลูกค้าแต่ละราย

 การบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนผู้ค้า

 การจัดการข้อมูลหลักทะเบียนสินค้า

 การบริหารการจัดซื้อ

กระบวนการเชื่อมโยงการบริหารวงจรค่าใช้จ่าย ผ่านระบบจัดซื้อ กับระบบงานบัญชี

                                      
การบริหารการจัดซื้อจัดจ้าง
     ระบบบริหารการจัดซื้อ (Purchasing Management) จะรวบรวมกลุ่มของระบบงาน ที่ทำการสนับสนุน การควบคุมการสั่งซื้อทุกประเภท รวมถึงการสั่งซื้อสินค้าสำเร็จรูปหรือวัตถุดิบซึ่งจะนำมาผลิต โดยเริมตั้งแต่การออกใบสั่งซื้อ (Purchase Order) การรับของและการชำระเงิน (Receipt and Payment) ข้อมูลผู้ขาย (Vendor / Supplier Profile) และการวิเคราะห์ตรวจสอบต่าง ๆ (Analysis and Tracking) โดยระบบนี้ควรสนับสนุนขั้นตอนการทำงานสำคัญๆ เหล่านี้

• ข้อมูลผู้ขาย (Vendor / Supplier Profile)
• การออกเอกสารใบขอซื้อ (Purchase Requisition)
• การจัดเก็บใบเสนอราคา (Requisition and Quotation)
• การออกใบสั่งซื้อและการจัดการใบสั่งซื้อ (Purchase Orders and Purchase Orders Management)
• การควบคุมราคาและส่วนลด (Price and Discounts)
• การควบคุมสัญญาและข้อตกลงกับผู้ขาย (Vendors Contracts and Agreement)
• รายการทางด้านการจัดซื้อ (Online Procurement Reporting)
• การรับสินค้าและบริการ (Procurement Receipts)
• การประเมินผลผู้ขาย (Vendor Evaluation)
• เชื่อมโยงกับระบบการบริหารสินค้าคงคลังและวัตถุดิบ (Inventory Management)

 การบริหารจัดการข้อมูลทะเบียนผู้ค้า

 การจัดการข้อมูลหลักทะเบียนสินค้า

 การบริหารการจัดซื้อ

ปัจจัยความสำเร็จการควบคุมสินค้าคงคลัง มีสองปัจจัยคือ

• การควบคุมความเคลื่อนไหวสินค้า

• การเชื่อมโยงทางบัญชี

ระบบควบคุมคลังสินค้า สามารถระบุคลังจัดเก็บสินค้าในรูปแบบของ Warehouse Location ได้ ด้วย Terms Location ดังต่อไปนี้

• Plant

• Storage Location

• Rack Bin

รองรับการจัดทำ Batch Inventory เพื่อจัดเก็บสินค้าในลักษณะ LOT การผลิตหรือ LOT วันที่รับเข้าได้

รองรับการบริหารหมายเลข SERIAL NUMBER ของสินค้าได้

รองรับการทำรายการ Movement สินค้า – รับสินค้าอ้างอิงใบสั่งซื้อได้

รองรับการทำรายการ Movement สินค้า – รับสินค้า ปรับปรุงเพิ่ม

รองรับการทำรายการ Movement สินค้า – รับสินค้า จากการผลิต (รับเข้า Semi Finish Goods , Finish Goods)

รองรับการทำรายการ Movement สินค้า – เบิกสินค้าเพื่อขาย

รองรับการทำรายการ Movement สินค้า – เบิกสินค้า เพื่อการปรับปรุงลด

รองรับการทำรายการ Movement สินค้า – เบิกสินค้าเพื่อใช้

สามารถสร้างใบขอโอนสินค้า เพื่อการควบคุมการโอนของ โดยมี สถานะ In transit เพื่อการควบคุมการเบิกออกและการรับเข้าของคลังต้นทางและปลายทางได้

สามารถสร้างใบขอประกอบสินค้า เพื่อการควบคุมการเบิก สินค้าวัตถุดิบ ไปเป็นสินค้าชุดประกอบได้ และสามารถโอนมูลค่า Inventory ในทางบัญชีได้อย่างแม่นยำ

สามารถจัดทำ BOM ของรายการสินค้าประกอบ หรือสินค้าชุดได้

สามารถจัดเก็บสินค้า หรืออะไหล่บริการ ได้ระดับ Plant, Storage Location และ Rack Bin ได้

สามารถตรวจสอบยอดคงเหลือ สินค้า ตามการกำหนดค่า Warehouse ได้

มีระบบการตรวจนับสินค้า (Physical Count)

สามารถเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อสร้างรายการบันทึกบัญชีสินค้าได้

Focus One ERP เรามี

• WMS ทำหน้าที่การบันทึกรับเข้าสินค้า ที่สามารถบอกได้ว่าถ้ารับสินค้าเข้ามาควรจะต้องไปวางไว้ตรงไหน

• มี SKU รับเข้า และแนะนำ Location ที่ควรจะไว้จัดเก็บ

• มีการ Print Tag Location เพื่อติดกับ Pallet

• มีระบบการกำหนด การหยิบของ ที่แนะนำว่ารถคันไหน ไม่ต้องมีระบบจัดของขึ้นรถ

• ทำ Flow ของการรับของจากหน้าท่า

• มี Location ทั้งหมดกี่ Location

• มีเรื่องการเตือนการหมดอายุ

• ทำ Flow นำเสนอทางธุรกิจ

Plant

Storage Location

Rack Bin

1.1 ระบบบัญชีแยกประเภททั่วไป (General Ledger)

บัญชีแยกประเภททั่วไปจะทำหน้าทีจัดเก็บแผนผังบัญชี (Chart of Account) ไว้ เป็นศูนย์กลางและงบดุลทางด้านการเงินของทั้งองค์กร โดยจะรองรับทุกส่วนของขั้นตอนทางการบัญชีของธุรกิจ ในโมดูลนี้รายการเปลี่ยนแปลง (Transactions) ทางการเงินและบัญชีจะถูกโอน (Posted) ประมวลผล สรุป และรายงาน โดยจะเก็บรักษาการตรวจสอบบัญชี (Audit Trail) ที่สมบูรณ์ของรายการเปลี่ยนแปลง และทำให้หน่วยงานแต่ละส่วนสามารถที่จะดูข้อมูลข่าวสารการเงินของ หน่วยงานได้ ระบบบัญชีแยกประเภททั่วไปที่ดีควรจะสนับสนุนขั้นตอนการทำงานสำคัญๆ เหล่านี้

• โครงสร้างแผนผังบัญชี (Chart of Account)

• การจัดการระบบบัญชีแยกประเภท (Ledger Management)

• การรวบรวมงบการเงินและการรายงาน (Financial Consolidation and Reporting)

• การบันทึกสมุดบัญชีรายวัน (Journal Entry)

• รายการเปลี่ยนแปลงบัญชีแยกประเภทใบสำคัญในสมุดบัญชีรายวัน (Journal Voucher Ledger Transactions)

• บัญชีแยกประเภทต้นทุนของโครงการ (Project Cost Ledger)

• การควบคุมบัญชีแยกประเภท (Ledger Control)

• การบัญชีต่างสกุลเงินและการแปลงอัตราแลกเปลี่ยน (Multicurrency Accounting and Conversion)

• รองรับการบันทึกบัญชีแบบหลากมิติ อาทิเช่น Cost Center / Business Area / Project Code / Project Sub Code / Segmentation Code 1 - 10

• การสอบถามข้อมูลและรายงานแบบทันทีทันใด (On-Line Inquiry Reporting)

• รายงานงบการเงิน (Financial Statement Reporting)

• การสร้างรายงานทางการเงิน (Financial Report Writer)

• รายงานทางการเงินเพิ่มเติม (Additional Financial Reporting)

1.2 ระบบบัญชีเจ้าหนี้ (Accounts Payable)

ระบบบัญชีเจ้าหนี้จะทำหน้าที่กำหนดตารางการจ่ายตัวเงิน ซึ่งต้องชำระให้ ผู้จำหน่ายและผู้แทน จำหน่าย และเก็บรายละเอียด ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเป็นหนี้ วันที่ครบกำหนดจ่าย และส่วนลดที่มีให้ โดยโมดูลนีจะจัดเตรียมหน้าทีการทำงานและเชื่อมโยงเข้ากับระบบงานอื่น ๆ เช่น การบริการลูกค้า การจัดซื้อ การควบคุมคลังสินค้าและวัตถุดิบ และควบคุมโรงงานผลิต โมดูลนี้ควรจะสนับสนุนขั้นตอนการทำงานสำคัญๆ เหล่านี้

• ระเบียบและนโยบายบัญชีเจ้าหนี้ขององค์กร (AP Company Policies & Procedure)

• ข้อมูลหลักของผู้ ขายและหลักฐานการจ่ายเงิน (Suppliers / Voucher Master Data)

• การควบคุมการชำระเงิน (Payment Controls)

• การทำใบกำกับสินค้า และการวิเคราะห์ระยะเวลาการชำระหนี้ (Invoice Processing & Aging Analysis)

• การชำระเงิน (Payment Processing)

• ใบสำคัญในสมุดบัญชีรายวัน (Journal Voucher Processing)

• การโอนข้อมูลบัญชีแยกประเภทเจ้าหนี้ (AP Ledger Posting)

• กรรมวิธีการทำเช็ค (Check Processing)

• รายการเปลี่ยนแปลงบัญชีเจ้าหนี และการควบคุม (AP Transactions & Controls)

• รายงานต่าง ๆ สำหรับบัญชีเจ้าหนี้ (AP Reporting)

1.3 ระบบบัญชีลูกหนี้ (Accounts Receivable)

ระบบบัญชีเจ้าหนี้จะทำการติดตามกำหนดการจ่ายเงินจากลูกค้าที่จะต้องทำการจ่ายให้องค์กร โดยบรรจุเครื่องมือที่จะทำการควบคุม และเร่งการรับเงินจากรายการที่บันทึกไว้ของใบสั่งขาย

(Sales Order) เพื่อโอนไปเป็นการรับชำระหนี้ โมดูลนี้ควรจะสนับสนุนขั้นตอนการทำงานสำคัญๆ เหล่านี้

• ระเบียบและนโยบายบัญชีและลูกหนี้ขององค์กร (AR Company Policies & Procedure)

• ข้อมูลหลักของลูกค้าและหลักฐานการรับเงิน (Customer / Voucher Master Data)

• การทำใบสำคัญในการรับเงิน และการวิเคราะห์ระยะเวลาการรับชำระหนี้ (Bill Processing & Aging Analysis)

• การบริหารเงินเชื่อ (Credit Management)

• เอกสารในการรับชำระเงินสด และขั้นตอนการรับเงิน (Credit/Payment Application, Receipt Processing)

• ใบสำคัญในสมุดบัญชีรายวัน (Journal Voucher Processing)

• การโอนข้อมูลบัญชีแยกประเภทลูกหนี้ (AR Ledger Posting)

• การบัญชีต่างสกุลเงินและการแปลงอัตราแลกเปลี่ยน (Multicurrency Accounting & Conversion) รายการเปลี่ยนแปลงบัญชีลูกหนี้ การควบคุม (AR Transactions & Controls)

• รายงานต่าง ๆ สำหรับบัญชีลูกหนี้ (AR Reporting)

1.4 รายงานการเงิน (Financial Reporting)

รายงานการเงินทำให้ สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพขององค์กรได้ แม่นยำขึ้นโดยอาศัยข้อมูลจากรายงานเหล่านั้น โดยรายงานเหล่านี้จะอนุญาตให้ องค์กรย่อยทราบรายละเอียดทางด้านการเงิน

(Financial Information) ขณะเดียวกัน องค์กรใหญ่ ที่ถือหุ้นในองค์กรย่อย (Subsidiaries) จะสามารถตรวจสอบผลการดำเนินการขององค์กรสาขาทั้งหมดและดูข้อมูลข่าวสารรวม (Consolidate) ไดัเช่นกัน โดยระบบควรจะมีเครื่องมือให้ ผู้ใช้ สามารถสร้างรายงานเพิ่มขึ้นเองได้และจัดเตรียมความลึกที่เพียงพอของข้อมูล (Depth of Data) และการเข้าถึงข้อมูลการเงินที่จะ

สามารถสรุปได้ จากข้อมูลทั้งหมด